วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เฟรมCinelli Mash

Cinelli Mash

เฟรม Cinelli Mash
เป็นเฟรมอลูมิเนียม เป็นที่นิยมของหมูวัยรุ่น

ใช้วัสดุเฟรมเป็น อูมิเนียม
วัสดุตะเกียบเป็น คาบอร์น ออกทรง แอโร่
ราคาเฟรมตัวนี้ราคา
34000 บาท
โดนใจอย่างนี้หาซื้อกันได้เลยเบา 3.4 กก.



เฟรม อลูมิเนียม vs คาบอร์น

อลู VS คาร์บอน
    สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึง เฟรม คาร์บอน VS อลูมิเนียมกันดีกว่า


คาร์บอน เบา นุ่ม ซับแรงได้เยอะ
ขอเสียแพง
ขอดี เบา พุง นุ่ม ซับแรงได้เยอะ


ชมภาพ เฟรท คาร์บอนของ Cervelo T3



คาร์บอนทั้งคัน

    ส่วนเฟรม อลูมิเนียมนั้น หนัก ทน กระด้าง พุ่ง
ขอเสีย หนัก กระด้าง ไม่นิ่ม
ขอดี ทน พุ่ง


ชมภาพเฟรม อลูมิเนียมของ Cinelli  Caleido

สวยแบบ ตาลาย

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วิธี skid fixed gear

วิธี skid Fixed gear
การเข้าใจแรงเสียดทานมีผลมากๆกับการเข้าใจการเบรคของ fixed gear ทำให้เข้าใจว่าจะใช้ท่าไหนในสถานการณ์อะไร ท่าเบรคของ Fixed gear มีหลายท่า เช่น
  1. back pressure
  2. skip stop
  3. skidding (whip skid, mid skid, front skid, seat skid)
Back pressure
back pressure คือการฝืนบันไดให้ปั่นช้าลง คนส่วนใหญ่ที่ปั่น fixed gear ครั้งแรกก็เบรคด้วยวิธีนี้ เนื่องจากบันไดของ fixed gear จะหมุนเร็วขึ้นตามความเร็วของล้อ (และรถ) การขืนให้มันหมุนช้าลงจะทำให้รถค่อยๆช้าลงและหยุดได้ในที่สุด
การหยุดแบบนี้ใช้ระยะเบรคเยอะที่สุด โอกาสที่ล้อจะไถลก็น้อยที่สุดเช่นกัน ทำให้เหมาะกับการเบรคบนถนนลื่น เช่นตอนฝนตก
Skip stop
Skip stop คือการยกล้อหลัง ทำให้ล้อหลังลอยจากพื้น (เพื่อทำให้แรงเสียดทานที่ล้อหมดไปในทันที) แล้วพอรถตกลงมาก็จะเกิดแรงเสียดทานสถิตทำให้รถลดความเร็วลงอย่างรวดเร็ว แล้วเสี้ยววินาทีถัดมาถ้าเราเกร็งขาไว้ไม่มากพอ บันไดก็จะดึงให้รถไปต่อ ถ้าเราเกร็งขาแข็งไว้พอ ล้อจะเริ่มไถลกลายเป็นแรงเสียดทานจลน์ เกร็งขาต่อไปก็จะหยุดรถได้ แต่ใช้ระยะเบรคเยอะเพราะแรงเสียดทานจลน์หยุดรถได้ไม่ดีมาก (ขึ้นกับดอกยางและพื้นถนน) ส่วนใหญ่ก็จะแก้สถานการณ์โดยการยกล้อหลังอีกที
การยกล้อหลังฟังดูยาก แต่จริงๆแล้วคือการกระโดดธรรมดานี่เอง (แต่ต้องไม่เผลอดึงล้อหน้าขึ้นมาด้วยนะ ไม่งั้นจะเป็นกระโดดสองล้อ) เพราะปรกติเท้าเราจะติดกับสายรัดหรือตะกร้ออยู่แล้ว พอเราย่อขาแล้วยืนเร็วๆ (กระโดด) ครึ่งหลังของจักรยานก็จะติดขึ้นมาเอง
Skid stop
การ Skid คือการล็อคขาให้บันไดหยุดทันที ถ้ารถเคลื่อนที่ช้ารถจะหยุดด้วยแรงเสียดทานสถิต ถ้ารถเคลื่อนที่เร็วเกินกว่าแรงเสียดทานสถิตจะเอาอยู่ ล้อหลังจะเริ่มไถลเกิดแรงเสียดทานจลน์ ซึ่งก็หยุดรถได้ แต่จะใช้ระยะเบรคค่อนข้างเยอะ
การ skid มีหลายท่า ทั้ง mid skid, front skid, whip skid, seat skid
  • mid skid — ยืนขึ้นแล้วล็อคขา ให้ล้อหลังไถลจนหยุด ผมรู้สึกว่าอันนี้ง่ายสุด เป็นอันแรกที่ผมทำเป็น
  • front skid — ยืนขึ้นแล้วโน้มตัวไปพิงแฮนด์ การถ่ายน้ำหนักไปด้านหน้าทำให้ล้อหลังไถลได้ง่ายขี้นเพราะแรงที่กดลงล้อน้อย ระยะเบรคจะยาวขึ้น ไม่เหมาะใช้หนีตาย เหมาะใช้เล่นสนุก หรือไถลลงเนินเพราะขี้เกียจปั่น
  • whip skid — คล้าย mid skid แต่สะบัดเอวออกข้าง สำหรับผมมันเกิดขึ้นเองตอนเหนื่อยๆ แล้วทำ mid skid พลาด แต่ทำไปเรื่อยๆก็เริ่มควบคุมให้ล้อหลังไถลออกข้างได้ ดีกว่า mid skid ตรงที่หน้ายางของล้อหลังจะเปิดออก (เพราะท้ายปัด) ทำให้ระยะเบรคสั้นลง แต่กินพื้นที่ด้านข้างเวลาเบรค ไม่เหมาะจะใช้บนถนน เพราะรถที่ตามมาจะคาบเราไปกินได้
  • seat skid — เหมือนจะง่ายมาก แต่ยากมากสำหรับผม เพราะขาไม่แข็งแรงพอ ถ้าไม่มาเร็วจริงๆจะหยุดไม่ได้ บางครั้งขาอาจจะหลุดจากตะกร้อ หรือรองเท้าหลุดเลยก็มี seat skid จะใช้ระยะเบรคน้อยสุดในบรรดาท่า skid ทั้งหลาย เพราะน้ำหนักตัวเรากดอยู่ที่ล้อหลัง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เหมาะจะใช้กับถนนลื่นเพราะอาจจะหยุดไม่ทันอยู่ดี
การ skid ถ้าทำเป็นแล้วค่อนข้างสะดวกเพราะเราระเบิดแรงออกมา (ทั้งแขน, ทั้งขา, ทั้งลำตัว) เพื่อ ทำลายแรงเสียดทานสถิตให้กลายเป็นแรงเสียดทานจลน์ หลังจากนั้นจะใช้แรงน้อย เพราะเราอาศัยดอกยางล้อหลังเป็นคนเบรค ถ้า skid บ่อยๆควรเช็คดอกยางล้อหลังทุกๆเดือน และน่าจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน
การ skid อาศัยการไถลของรถ ฉะนั้นยางหลังมีความสำคัญมาก ยางแต่ละเส้นจะให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ระยะเบรคไม่เท่ากัน เวลาเพิ่งเปลี่ยนยางใหม่ควร skid เล่นๆในที่ปลอดภัยเพื่อทำความคุ้นเคยกับมันก่อน
การทำให้ล้อไถลจะทำได้ง่ายบนถนนลื่น เหมาะจะใช้เล่นสนุก แต่การ skid ไม่เด่นเรื่องความปลอดภัย ไม่ควรใช้หนีตาย ถ้าจะใช้ เราต้องรู้ว่าความเร็วเท่าไหน สถานการณ์แบบไหน ใช้แต่ละท่าจะใช้ระยะเบรคเท่าไหร่ มีรถตามมามั๊ย เรามีพื้นที่ข้างๆให้ไถลไปหรือเปล่า
สรุปแล้ว อย่าไปเร็วกว่าที่เรามั่นใจว่าเราจะคุมรถได้ถ้าเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนขับขี่โดยปลอดภัยฮะ
ขอความเร็วส์จงอยู่แด่ท่าน สวัสดีครับ! ^/\^
มีรูปมาฝาก ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประวัติ ฟิกเกียร์

ประวัติฟิกเกียร์
Fixed Gear หรือ Fixie'' เป็นคำแสลงของจักรยานที่มีเกียร์เดียว และล้อหลังไม่สามารถฟรีได้ คือ เท้าต้องปั่นตามไปด้วยทุกครั้งที่รถวิ่งอยู่ และรถประเภทนี้เป็นรถที่ไม่ต้องการใบจานหลายใบ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ช่วยเหลือในการเปลี่ยนเกียร์ และบางคนก็ไม่ใช้เบรคด้วยซ้ำ สมัยก่อนเป็นภาหนะส่งเอกสารตามตึก และเป็นกีฬาที่ใช้แข่งในเวลโลโดม 
      เดิมทีเจ้ารถ Fixed Gear ในต่างประเทศนั้น มันมีหน้าที่เป็นรถจักรยานใช้ส่งเอกสาร หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Messenger Bike เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ในต่างประเทศล้วนมีขนาดใหญ่ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานออกตระเวนซอกแซก  ไปตามตรอกซอกซอย หรือบนถนนที่มียวดยานการจราจรติดขัด  รถจักรยานจึงสะดวกรวดเร็วกว่าเยอะ และสามารถพกพาขึ้นรถไฟฟ้าได้ง่ายเพราะมันเล็ก    ผอมเพรียวกะทัดรัด น้ำหนักเบา เลยคล่องตัวกว่ามอร์เตอร์ไซค์เป็นไหนๆต่อมามีการพลิกแพลงประยุกต์  ท่าทางแบบ BMX Stunt นักปั่นที่เก่งๆ สามารถเล่นท่า ทั้งยกล้อ ควงมันไปมา ด้วยการ balanceรถที่ต้องคอยจับจังหวะในการขี่ทุกฝีก้าวที่ย้ำน้ำหนักลงบนลูกบันได  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นการเพิ่มรสชาด เปรี้ยว เผ็ด มันส์  ให้เข้ากับรถที่มีสีสัน สดใสแสบทรวง หรือจะหวานแหววแนวลูกกวาด ผสมกลมกลืนกับท่าทางพลิกแพลงได้อย่างลงตัว เห็นแล้วเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของใครหลายๆ คน รวมถึงตัวผู้เขียนนี้ด้วย จึงเป็นที่มาของ Trend ใหม่ในตอนนี้ที่อยากจะแนะนำยังไงครับ 
      รถจักรยาน Fixed Gear เข้าสู่ประเทศไทยจากนักศึกษาที่ไปเรียนต่อยังต่างประเทศ แล้วได้นำกระแสนี้มาเผยแพร่ เมื่อยามที่เดินทางกลับมาบ้านเกิด          ยังมาพร้อมกับข้อมูลมากมายทั้งแนวการแต่งกาย เทคนิคการขับขี่เล่นท่า ซึ่งเราๆ สามารถหาข้อมูลเหล่านี้เพิ่มอย่างง่ายดายจากโลกอินเตอร์เน็ตที่เพียงคลิ๊กคำว่า fixed gear ลงใน google นอกจากนี้ยังมีกระแสมาจากนักจักรยานประเภทลู่  ที่ มีกลุ่มเล่นอยู่แล้วในประเทศไทยจับเอารถคู่ใจมาปรับแต่งเพื่อขี่เล่นในเมือง    ซึ่งรถ Fixed Gear ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนโฉม ปรับปรุงวัสดุให้มีความแข็งแรงคงทนมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการเล่นท่าผาดโผน หรือไม่ก็จะใช้รถลู่เดิมๆ ที่ปรับเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้น มาเป็นรถ Fixed Gear ดูแล้วก็ให้ความรู้สึกคลาสสิกไปอีกแบบแต่ก็ยังสามารถให้ความสนุกเพลิดเพลินแก่ผู้ขี่ได้ไม่แพ้กัน 
ภาพฟิกเกียร์ 

 

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Dosnoventa Houston 2016

\

Dosnoventa Houston From Italy
อลูมิเนียมเฟรม "COUGAR" โดย DOSNOVENTA
- คุณภาพสูงที่กำหนดเองอลูมิเนียม DEDACCIAI ®
- 7005 / T6 Triple โขก
- Handcrafted ในอิตาลี
- รับประกัน โดย Dosnoventa
ตะเกียบ FULL CARBON
- Dosnoventa เต็มคาร์บอนหนึ่งห้า (1/8 - 1/5)
HEADSET Deda 1/8 - 1/5
B.B. (B.S.A. ) English
หลักอาน 31.6 Ø
GROUND clearence 290 MM
COLOR ห้วงอวกาศ
- ฉบับฮูสตันสีชมพู Decalset
- ทาสีในอิตาลี
- สีที่กำหนดเองสามารถใช้ได้

น้ำหนัก FRAME 1,400 กรัม / ส้อม 350 GR (ขนาด 52)

สามารถหาซื้อได้ในราคา 
38341 บาท
สั่งได้จากอินตาลี่
เข้าไทยประมาณ 49500 บาท
เว็บ https://shop.dosnoventabikes.com/collections/framesets/products/copy-of-dosnoventa-detroit-2



ภาพตัวอย่าง






ยกโชว์หน่อยย